ถอดบทเรียนการเป็น Project Manager และข้อควรระวัง
ที่เอาไปปรับใช้กับเหล่า “หัวหน้ามือใหม่ได้”ซึ่งเราสามารถแบ่งเป็น 2 พาร์ทได้ด้วยกัน “งาน” และ “คน”

งาน: ปล่อยวางจากหน้างาน แล้วถอยออกมามองภาพกว้าง

จากเดิมที่เราเคยได้รับโจทย์ และ มีหน้าที่ในการปฎิบัติงาน “ลงแรง” ทำให้บรรลุเป้าหมาย วันนี้เราต้องเปลี่ยน เป็นคนที่มีหน้าที่ “คิด” มากขึ้น, ให้โจทย์, ให้ direction แทน“บางครั้งก็อาจจะมองว่า ไม่ต้องลงงานเอง มีทีมช่วย ก็สบายขึ้นสิ แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะ เพราะยังมีอีกหลายมุมให้คิดมาก”

  • ตั้งโจทย์ยังไงให้ชัด และเข้าใจง่าย?: ทุกคนในทีมต้องเข้าใจว่าเป้าหมายคืออะไร และ ต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้น ติดขัดอะไรระหว่างทำหรือเปล่า เราต้องคอยเช็คสักหน่อยว่าทั้งทีมยัง On The Same Page หรือไม่
  • ใครคือคนที่เหมาะสมที่จะทำงานนี้?: Delegate งานให้ถูกคน งานก็จะสามารถดำเนินไปได้ง่าย คอยดู คอยไกด์เป็นระยะ งานก็ออกมาได้ตามที่คาดหวัง — “Put The Right Man, On The Right Job”

ตัวอย่าง: ถ้าเรามอบหมายงาน ให้คนที่ไม่ถนัดงานนั้นๆ แทนที่คนอื่นๆใช้เวลา 10  นาที เขาอาจจะต้องใช้ 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง เพื่อไปค้นหาวิธีก็ได้

ข้อควรระวัง: พอเราไม่ได้ลงงานเอง หลายๆครั้ง ก็จะมีสิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ อาจจะคิดว่า  “ทำไมทำแบบนั้น ทำแบบนี้สิ ง่ายๆเอง ถ้าทำเองก็เสร็จไปนานแล้ว” แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ได้ดีเสมอไป เพราะเมื่อเราเป็นหัวหน้า นั่นหมายถึงงาน และหน้าที่ความรับผิดชอบที่มากขึ้น แรกๆก็อาจจะพอทำได้ แต่หลังๆ ก็ไม่สามารถ แบ่งเวลา และทุ่มทุกอย่างได้เหมือนเดิม เราเลยต้องการกำลังเสริมมาช่วย รวมถึงปั้นให้ทีมเป็น successor ด้วย

คน หรือ เพื่อนร่วมทีม

เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมากๆ และจะละเลยไม่ได้ เพราะนอกจากเค้าจะทำงานช่วยทำให้งานสำเร็จแล้ว ก็ยังเป็นเพื่อน เป็นที่พักใจให้เราอีกด้วย

“อย่าปล่อยให้บรรยากาศในการทำงานร่วมกัน เป็นมลพิษ”

คงเป็นปกติที่การทำงานร่วมกัน จะมีการเห็นต่างบ้าง แต่ก็ต้องทำให้เข้าใจตรงกัน ว่าเรากำลัง discuss ในงาน เพื่อให้ได้งานที่ดีที่สุด และ เมื่อจบงานแล้ว เราก็ยังเป็นเพื่อนกัน รักกันเหมือนเดิม

อย่าปล่อยให้สถานการณ์ค้างคา เมื่อไหร่ที่หัวหน้างาน เห็นท่าว่าจะไม่ดีแล้ว ก็ควรจะเข้าไปจัดการ ไปทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง รวมถึงสร้าง engagement  ให้กับทีมอย่างต่อเนื่องด้วย

  • อย่าลืมใส่ใจเพื่อนทีมอย่างสม่ำเสมอ ทั้งเรื่องงาน และเรื่องส่วนตัว การที่เรารู้เรื่องของเพื่อนร่วมทีมแต่ละคน จะช่วยทำให้ เราสามารถทำงานร่วมกันได้ดีมากขึ้น เพราะมันคือการรู้จักเขาจริงๆ รู้ว่าช่วงนี้เป็นอย่างไร มีปัญหาอะไรมั้ย สนใจเรื่องอะไร หรืออยากพัฒนาด้านไหนเป็นพิเศษมั้ย
  • เราก็จะได้คอยระวัง และ คอยช่วยส่งเสริม รวมถึงการเลือกงานที่จะมอบหมาย ให้ตรงกับที่อยากเรียนรู้ด้วย

ข้อควรระวัง: อย่ามุ่งแต่เป้าหมาย จนลืมใส่ใจความรู้สึกของคนข้างๆ เพราะสุดท้าย พวกเราก็คือทีมเดียวกัน มาทำงานให้มีความสุขกันเถอะ!!

Disclaimer: เรื่องนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากบทเรียนของตัวเอง ตั้งแต่เพิ่งเริ่มเป็น Project Manager ใหม่ๆ จนถึงปัจจุบันที่เรียกได้ว่า ได้ลองผิดลองถูก และ ได้เรียนรู้มานะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ให้หลายๆคนน้า

บทความโดย: @mickeychintana

เรียบเรียงโดย: FutureSkill

ติดตามพวกเราได้ที่
Instagram: https://www.instagram.com/futureskill.co/
TikTok: https://www.tiktok.com/@futureskill.co
YouTube: https://www.youtube.com/@FutureSkill/videos
Website: https://futureskill.co/

สอบถามข้อมูลด้านคอร์สเรียนโปรโมชันได้ที่หน้าเพจ!