อยากเก่งภาษาจีน ทำไมต้องเริ่มต้นที่ตัวอักษรพินอิน (Pinyin)? - FutureSkill Blog

อยากเก่งภาษาจีน ทำไมต้องเริ่มต้นที่ตัวอักษรพินอิน (Pinyin)?

Highlights

  • พินอินคือประตูด่านแรกสู่ภาษาจีน: พินอินไม่ใช่แค่ระบบถอดเสียง แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เข้าถึงภาษาจีนได้ง่ายขึ้น ทั้งการอ่าน การเขียน และการใช้เทคโนโลยีในการเรียนรู้ แม้แต่คนจีนเองก็ต้องเรียนพินอิน
  • เข้าใจองค์ประกอบครบ จบทุกปัญหาการออกเสียง: พินอินมีองค์ประกอบหลัก 4 ส่วนที่ต้องเข้าใจให้ครบตั้งแต่ พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และสระท้าย การเข้าใจแต่ละส่วนอย่างถ่องแท้จะช่วยให้ออกเสียงได้ถูกต้อง โดยเฉพาะวรรณยุกต์ที่เป็นหัวใจสำคัญของการสื่อความหมายในภาษาจีน
  • ฝึกเองที่บ้านก็เก่งได้: Google Translate สามารถใช้ตรวจสอบการออกเสียงได้ฟรี แม้ไม่มีเพื่อนที่เป็นเจ้าของภาษาด้วยวิธีการให้ Speech-to-text ตรวจสอบความถูกต้องของคำที่เราออกเสียง

“เห็นตัวอักษรจีนทีไรปวดหัวทุกที” 

“พยายามจะเรียนหลายรอบแล้วแต่ก็ท้อทุกที”


ในโลกปัจจุบันที่จีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก ภาษาจีนไม่เพียงแต่เป็นภาษาที่มีผู้พูดมากที่สุดในโลก แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่โอกาสทางอาชีพและธุรกิจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในบริษัทจีน การค้าขายกับคู่ค้าชาวจีน หรือการท่องเที่ยวในประเทศจีน แต่หลายคนอาจลังเลที่จะเริ่มต้นเรียนภาษาจีนเพราะรู้สึกว่ายากและซับซ้อน โดยเฉพาะเมื่อเห็นตัวอักษรจีนที่มีลักษณะเป็นภาพวาดจนไม่สามารถออกเสียงได้อย่างถูกต้อง

แต่การเริ่มต้นเรียนภาษาจีนไม่ได้ยากอย่างที่คิด ด้วยระบบ “พินอิน” (Pinyin) ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้การเรียนภาษาจีนเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน หรือผู้ที่สนใจเรียนรู้ภาษาใหม่ พินอินถือเป็นบันไดขั้นแรกที่จะพาคุณก้าวสู่โลกของภาษาจีนได้อย่างมั่นใจ

พินอินคืออะไร? ทำไมต้องเรียนพินอินก่อนตัวอักษรจีน

พินอิน (Pinyin) เป็นระบบถอดเสียงภาษาจีนโดยใช้ตัวอักษรโรมัน ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้องโดยไม่จำเป็นต้องจดจำตัวอักษรจีนที่ซับซ้อนในครั้งแรก ๆ ที่เรียนภาษาจีน ระบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยชาวต่างชาติในการเรียนภาษาจีน แต่ชาวจีนเองก็ใช้ในการเรียนรู้การออกเสียงที่ถูกต้องอีกด้วย

นอกจากการช่วยในการออกเสียง พินอินยังเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ภาษาจีนยุคใหม่ที่จะทำให้ผู้เรียนเรียนรู้คำศัพท์และไวยากรณ์พื้นฐานได้เร็วขึ้น จดจำวิธีการออกเสียงของตัวอักษรใหม่ได้ดีขึ้น และยังช่วยในการพิมพ์ภาษาจีนในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ตโฟน นอกจากนี้ยังช่วยในการค้นหาคำศัพท์ในพจนานุกรมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย!

องค์ประกอบของพินอิน

พินอินประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญที่ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างเสียงที่ถูกต้อง


1. พยัญชนะ (Initials)

พยัญชนะในระบบพินอินแบ่งเป็นกลุ่มตามลักษณะการออกเสียง:

กลุ่มเสียงกระแทก:

b (ป) p (พ) m (ม) f (ฟ)

d (ต) t (ท) n (น) l (ล)

g (ก) k (ค) h (ฮ)

กลุ่มเสียงเสียดแทรก:

j (จ) q (ช) x (ซ)

z (จ) c (ช) s (ซ)

zh (จ) ch (ช) sh (ซ) r (ร)

พยัญชนะกึ่งสระ:

y (ย) w (ว)


2. สระ (Vowels)

สระเดี่ยว (6 เสียงพื้นฐาน):

a (อา) – ออกเสียงปากกว้าง

o (โอ) – ปากกลม

e (เออ) – เสียงกลาง

i (อี) – ยิ้มกว้าง

u (อู) – ปากห่อ

ü (อือ) – ปากห่อแต่ออกเสียงอี

สระประสม (ตัวอย่างที่พบบ่อย):

ai (ไอ) ei (เอย)

ao (เอา) ou (โอว)

ia (เอีย) ie (เอีย)

ua (วา) uo (วอ)

üe (เอือ)

หลักการประสมเสียงสระที่ถูกต้องคือ 

  1. ต้องจำวิธีการออกเสียงและเสียงของสระเดี่ยวให้ได้ก่อน
  2. สระประสมคือการเอาเสียงสระเดี่ยวมาอ่านต่อเนื่องกัน 

แต่ว่าการออกเสียงสระประสมมีข้อควรระวังและกฎในการออกเสียงที่ค่อนข้างซับซ้อน เราจึงอยากมาแนะนำข้อควรระวังในการออกเสียงประสมกัน

  1. ข้อควรระวังเสียงประสม  ia -ie, iu -ui: การออกเสียงสระประสมดังกล่าวจะต้องออกเสียงให้สระแต่ละตัวแยกกันอย่างชัดเจนจึงจะเป็นการออกเสียงที่ถูกต้อง มิเช่นนั้นจะเกิดการออกเสียงผิดได้
  2. ข้อควรระวังเมื่อพยัญชนะ j  q  x  y  ประสมกับเสียงสระประสมที่มีเสียง u เป็นต้นเสียง ต้องออกเสียงด้วยเสียงสระ ü
  3. ข้อควรระวังเมื่อพยัญชนะกึ่งสระ y  w ประสมกับเสียงสระ: เสียงพยัญชนะกึ่งสระมีเสียงที่คล้ายสระมาก ๆ ดังนั้น การออกเสียงต้องมีความแม่นยำ ออกเสียงแยกตัวออกจากกันอย่างชัดเจน

3. วรรณยุกต์ (Tones)

ภาษาจีนมี 4 เสียงวรรณยุกต์หลักและเพิ่มเติมคือเสียงเบา โดยตำแหน่งของวรรณยุกต์จะอยู่บนสระเสมอ โดยเรียงตามสระเดี่ยว เช่น huó mēi duō

มีข้อยกเว้นคือ หากวรรณยุกต์อยู่กับสระประสม iu หรือ ui ตำแหน่งของการเขียนวรรณยุกต์จะอยู่บนตัวสุดท้ายเสมอ เช่น zuī jiù

องค์ประกอบของวรรณยุกต์:

เสียง 1 (ˉ): เสียงคงที่สูง

เช่น mā (妈/แม่)

เสียง 2 ( ˊ ): เสียงขึ้น

เช่น má (麻/ป่าน)

เสียง 3 (ˇ): เสียงลงแล้วขึ้น

เช่น mǎ (马/ม้า)

เสียง 4 ( ˋ ): เสียงลง

เช่น mà (骂/ด่า)

เสียงเบา: ไม่มีสัญลักษณ์วรรณยุกต์ ออกเสียงสั้นและเบา

เช่น ma (吗/คำลงท้ายคำถาม)

xièxie (谢谢/ขอบคุณ) 

4. สระท้าย (Final Sounds)

สระท้ายที่พบบ่อย:

n (น)

ng (ง)

r (ร์)

กฎและข้อควรระวังสำคัญของการเขียนและการออกเสียงตัวอักษรพินอิน

  1. การผันเสียงวรรณยุกต์:
  • เมื่อมีเสียง 3 (ˇ) ติดกัน พยางค์แรกจะผันเป็นเสียง 2 ( ˊ )
  • เช่น nǐ hǎo (你好) จะออกเสียงเป็น ní hǎo
  1. การเขียนพินอินที่ไม่มีพยัญชนะ:
  • ต้องใส่เครื่องหมาย (‘) คั่นระหว่างพยางค์
  • เช่น Xi’an (西安) ไม่ใช่ Xian
  1. ข้อควรระวังพิเศษในการออกเสียง:
  • พยัญชนะ j, q, x เมื่อประสมกับสระ u ต้องเปลี่ยนเป็น ü
  • zh, ch, sh, r ต้องม้วนลิ้นขึ้นเพดานปาก
  1. หลักการการผันเสียงวรรณยุกต์เสียงสาม
  • เสียงสามติดกันสองพยางค์ ผันพยางค์แรกเป็นเสียงสอง 
  • เสียงสามติดกันสามพยางค์ ผันพยางค์ที่สองเป็นเสียงสามสอง หรือผันพยางค์แรกและพยางค์ที่สองเป็นเสียงสองทั้งหมด
  • เสียงสามติดกันสี่เสียง ผันพยางค์แรกและพยางค์ที่สามเป็นเสียงสอง 

วิธีการฝึกฝนพินอินจนคล่องแคล่ว

  1. การฝึกเขียนจะช่วยให้จดจำองค์ประกอบและระบบเสียงของพินอินได้ดีมากขึ้น เข้าใจโครงสร้างของพินอิน และยังสามารถพิมพ์ภาษาและใช้พจนานุกรมภาษาจีนได้อีกด้วย การฝึกเขียนสามารถทำได้ด้วยวิธีการตามนี้
    1. ฝึกเขียนพินอินจากการฟัง
    2. ทำแบบฝึกหัดแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ
    3. ฝึกใส่เครื่องหมายวรรณยุกต์ให้ถูกต้อง
  2. การฝึกออกเสียงจะช่วยให้สื่อสารผ่านการพูดและการฟังได้ดีขึ้น ภาษาจีนเป็นภาษาที่ให้ความสำคัญกับการออกเสียงในแต่ละคำ การเปลี่ยนระดับเสียงมีผลต่อความหมายมาก การออกเสียงผิดอาจทำให้สื่อสารผิดพลาดหรือไม่เข้าใจ การฝึกออกเสียงสามารถทำได้ด้วยวิธีการตามนี้
    1. ฟังและเลียนแบบเจ้าของภาษา
    2. ฝึกออกเสียงทีละองค์ประกอบ ก่อนประสมเป็นคำ

ปัญหาของการฝึกออกเสียง คือ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเราออกเสียงอย่างถูกต้อง  ในกรณีที่เราไม่มีเพื่อนเป็นคนจีน หรือฝึกกับเจ้าของภาษาไม่ได้ วันนี้ทาง FutureSkill ของเรามีวิธีที่มีประสิทธิภาพมาก ๆ ในการฝึกออกเสียงมาฝาก และทุกคนสามารถทำได้อย่างแน่นอนด้วยการใช้เครื่องมือที่มีติดสมาร์ตโฟนของเราทุกคนอย่าง Google Translate นั่นเอง

วิธีการเริ่มต้นได้ง่าย ๆ โดยการเปิดแอปพลิเคชัน Google Translate เปลี่ยนภาษาต้นทางให้เป็นภาษาจีน จากนั้นกดปุ่ม speech-to-text เพื่อเปลี่ยนเสียงของเราให้เป็นข้อความ ด้วยวิธีการนี้ หากเราออกเสียงอย่างถูกต้อง Google Translate ก็จะสามารถขึ้นข้อความที่ตรงกับการออกเสียงของเราได้นั่นเอง!

และขอแอบแถมตารางเกณฑ์การประเมินตัวเองแบบง่ายๆ ให้ทุกคนได้นำไปลองใช้กันเพื่อฝึกทักษะการพูดได้ง่ายๆ แม้ไม่มีเจ้าของภาษาอยู่ข้างกาย


บทสรุป

พินอินเป็นระบบที่ช่วยให้การเรียนภาษาจีนเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น แม้จะมีกฎและข้อควรระวังหลายประการ แต่ด้วยการฝึกฝนอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ ผู้เรียนจะสามารถพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาจีนได้อย่างถูกต้องและเป็นธรรมชาติ เมื่อมีพื้นฐานพินอินที่แข็งแรง การเรียนรู้ตัวอักษรจีนและการพัฒนาทักษะภาษาจีนในขั้นสูงต่อไปก็จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างแน่นอน

หากอยากเรียนรู้พื้นฐานภาษาจีนแบบจัดเต็ม พินอินมีที่มาอย่างไร ออกเสียงให้ชัดแบบเจ้าของภาษาแม้จะไม่มีพื้นฐานมาก่อน วันนี้ทาง FutureSkill มีคอร์สเรียนภาษาจีนพื้นฐานแบบแน่น ๆ อย่าง “เปิดประตูสู่ภาษาจีนด้วยการเรียนรู้ภาษาจีนขั้นเริ่มต้น” ที่จะช่วยให้คุณปูพื้นฐานภาษาจีนได้อย่างมั่นใจ พร้อมสำหรับการเรียนรู้ภาษาจีนสำหรับขั้นถัดไป รวมถึงช่วยการสื่อสารภาษาจีนเบื้องต้น แล้วพบกับเราได้ที่ https://fskill.co/RMyW